ปัจจุบันมีคนสูงวัยที่ป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์จำนวนมาก ซึ่งสาเหตุของโรคนี้มาจากการที่เซลล์ในสมองได้ถูกทำลายตามการใช้งาน อาการตอนแรกจะเริ่มจากจำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ก่อน แล้วอาการของโรคจึงพัฒนาขึ้นจนทำให้สูญเสียความทรงจำ อาจส่งผลเสียโดยทำให้ผู้ซึ่งทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์นั้นรู้สึกเครียดได้ อย่างไรก็ดี4 เรื่องที่ไม่ควรทำเมื่อดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ นั้นมีดังต่อไปนี้
1.ไม่มีการแบ่งหน้าที่สำหรับดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์
บางครอบครัวกำหนดหน้าที่ให้คนเพียงคนเดียวรับบทบาทดูแลผู้ป่วย ทั้งที่ความจริงแล้ว ควรมีการผลัดเปลี่ยนเพื่อดูแลผู้ป่วยบ้างจะดีกว่า การดูแลผู้ป่วยเป็นเรื่องที่ทั้งเครียดและกดดัน หากต้องทำติดต่อกันนานๆ อาจทำให้คนที่ดูแลป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคเครียดได้ แต่หากใครเป็นลูกคนเดียวอาจจ้างคนดูแลมาช่วยก็ได้เช่นกัน
2.ไม่เรียนรู้เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์
หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าโรคอัลไซเมอร์ไม่ได้มีแค่อาการความจำเสื่อมแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ทั้งอาการหลงผิด ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อาการทางจิต หากไม่ได้ศึกษาให้ดีพอผู้ดูแลอาจรู้สึกเครียดและวิตกกังวล อย่างไรก็ดี ควรสอบถามผู้เชี่ยวชาญ เช่น แพทย์ พยาบาล ถึงรายละเอียดและการพัฒนาของโรค หรือบางคนจะเลือกเป็นการอ่านหนังสือ หรือหาข้อมูลตามอินเตอร์เน็ตก็ได้เช่นกัน
3.อธิบายเรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา
หลายคนนั้นมักจะอธิบายเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมากับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วการอธิบายเรื่องเดิมนอกจากจะไม่ทำให้ผู้ป่วยเข้าใจ ยังทำให้ผู้ดูแลหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นไปอีก จะดีกว่าหรือไม่หากว่าคุณเลี่ยงการปะทะ โตเถียงหรืออธิบายเรื่องเก่า เรื่องใดเงียบได้ก็ควรเงียบจะดีที่สุด
4.ไม่ทำกิจกรรมร่วมกันกับผู้ป่วย
แม้ญาติผู้ใหญ่ของคุณจะป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะปล่อยให้ท่านนอนบนเตียงอย่างสิ้นหวังตลอดเวลา หากแต่ควรทำกิจกรรมร่วมกันกับท่านบ้าง ทั้งการเข็นท่านเข้าไปในสวน การเปิดเพลงให้ท่านฟังแล้วร่วมร้องเพลงกับท่าน หรือหากผู้สูงวัยบางคนเคยชอบกิจกรรมการอ่านหนังสือ ก็อาจจะอ่านหนังสือให้ท่านฟัง เพื่อสร้างความผ่อนคลาย ไม่ทำให้ผู้ป่วยเหงาหรือว่ารู้สึกว้าเหว่
สำหรับใครที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ขอแนะนำว่าให้พยายามปฏิบัติตัวตามที่แพทย์แนะนำ และหมั่นหาเวลาผ่อนคลายความเครียดให้กับตนเองบ้าง เพื่อให้คุณมีความสุข และสามารถดูแลคนป่วยได้นานๆ โดยที่ไม่เกิดความรู้สึกเศร้าจนต้องพบจิตแพทย์ แต่อย่างไรก็ดี หากพยายามทำตามหลักการที่แพทย์แนะนำแล้วยังไม่สามารถสลัดความเครียดออกไปได้ การพบแพทย์คือทางเลือกที่ดีที่สุด